วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่ 7
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
วัน/เดือน/ปี 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558
ครั้งที่ 7 กลุ่มเรียน 104 วันจันทร์  
เวลาเข้าเรียน 12.20 - 15.50 น. ห้อง 435 อาคาร 4          



                          สัปดาห์นี้ไม่มีการเรียนการสอน  เนื่องจากสอบกลางภาค



วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่ 6
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
วัน/เดือน/ปี 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558
ครั้งที่ 6 กลุ่มเรียน 104 วันจันทร์  
เวลาเข้าเรียน 12.20 - 15.50 น. ห้อง 435 อาคาร 4










ภาพความประทับใจ 
บรรยากาศแห่งความสุข ความอบอุ่น ..
# 160258  # 104

  



วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่ 5
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
วัน/เดือน/ปี 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558
ครั้งที่ 5 กลุ่มเรียน 104 วันจันทร์  
เวลาเข้าเรียน 12.20 - 15.50 น. ห้อง 435 อาคาร 4

           กิจกรรมก่อนเข้าสู่บทเรียน : อาจารย์ให้นักศึกษาทำกิจกรรม ดังนี้


อุปกรณ์


ภาพที่ 1
วิธีทำ  ใส่ถุงมือในข้างที่ตนเองไม่ถนัดทาบลงบนกระดาษแล้ววาดเส้นตามโครงถุงมือ จากนั้น ให้วาดรูปมือที่อยู่ในถุงมือ วาดส่วนต่างๆของมือ(หลังมือ) เช่น เล็บ  ขนมือ เส้นต่างๆ เป็นต้น


ภาพที่ 2
วิธีทำ  ถอดถุงมือออกทาบมือลงบนกระดาษแล้ววาดรูป จากนั้น ให้วาดส่วนต่างๆของมือเหมือนรูปที่1 แต่ต่างกันตรงที่รูปที่2 ให้วาดรูปมือที่เห็นให้เหมือนจริงที่สุด




ความรู้ที่ได้รับจากกิจกรรม
         ให้เปรียบกับมือที่เราเห็นทุกวันเราจำรายละเอียดได้ครบหรือเปล่า เด็กก็เหมือนกัน อย่าชะล่าใจว่าเราเห็นเด็กทุกวัน ทุกเทอมแล้วจะจำได้ ครูจะมองภาพรวมทั้งเทอมมาบันทึกในครั้งเดียวไม่ได้ควรบันทึกพฤติกรรมพัฒนาการของเด็กเป็นช่วงๆ บันทึกสิ่งที่เด็กทำอย่างสม่ำเสมอทำให้เป็นระบบ
        เปรียบเสมือนรูปมือภาพที่2 การที่บันทึกจากสิ่งที่เห็นจะใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่า การบันทึกที่ดีที่สุด คือ การบันทึกเป็นช่วงๆ สังเกตพฤติกรรมเด็กแล้วบันทึกตามในสิ่งที่เห็น เพราะอาจจะลืมแล้วทำให้เก็บรายละเอียดได้ไม่ครบถ้วน


การสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ
ทักษะของครูและทัศนคติ

การฝึกเพิ่มเติม
  • อบรมระยะสั้น , สัมมนา
  • สื่อต่าง ๆ  ( หนังสือ , โทรทัศน์ครู , VDO , อินเทอร์เน็ต )
การเข้าใจภาวะปกติ
  • เด็กมักคล้ายคลึงกันมากกว่าแตกต่าง
  • ครูต้องเรียนรู้ , มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กปกติและเด็กพิเศษ
  • รู้จักเด็กแต่ละคน
  • มองเด็กให้เป็น " เด็ก "
การคัดแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า
  • การเข้าใจพัฒนาการของเด็ก จะช่วยให้ครูสามารถมองเห็นความแตกต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่าย
การพร้อมของเด็ก
  • วุฒิภาวะ
  • แรงจูงใจ
  • โอกาส
การสอนโดยบังเอิญ
  • ให้เด็กได้เป็นฝ่ายเริ่ม
  • เด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสในการสอนมากขึ้นเท่านั้น
  • ครูต้องพร้อมที่จะพบเด็ก
  • ครูต้องมีความสนใจเด็ก
  • ครูต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก
  • ครูต้องมีอุปกรณ์และกิจกรรมล่อใจเด็ก
  • ครูต้องมีความตั้งใจจริงในการช่วยให้เด็กแต่ละคนได้เรียนรู้
  • ครูต้องใช้เวลาในการติดต่อไม่นาน
  • ครูต้องทำให้เป็นเรื่องสนุกสนาน
อุปกรณ์
  • มีลักษณะง่าย ๆ
  • ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
  • เด็กพิเศษได้เรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบเด็กปกติ
  • เด็กปกติเรียนรู้ที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กพิเศษ
ตารางประจำวัน
  • เด็กพิเศษไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำ 
  • กิจกรรมต้องเรียงลำดับเป็นขั้นตอนและทำนายได้
  • เด็กจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ
  • การสลับกิจกรรมที่อยู่เงียบๆ กับกิจกรรมที่เคลื่อนไหวมากๆ
  • คำนึงถึงความพอเหมาะของเวลา
ทัศนคติของครู
ความยืดหยุ่น
  • การแก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
  • ยอมรับขอบเขตความสามารถของเด็ก
  • ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคน
การใช้สหวิทยาการ
  • ใจกว้างต่อคำแนะนำของบุคคลในอาชีพอื่นๆ
  • สร้างความสัมพันธ์ระหว่างการบำบัดกับกิจกรรมในห้องเรียน
การเปลี่ยนพฤติกรรมและการเรียนรู้

เด็กทุกคนสอนได้
  • เด็กเรียนไม่ได้เพราะไร้ความสามารถ                             
  • เด็กเรียนไม่ได้เพราะขาดโอกาส
เทคนิคการให้แรงเสริม
แรงเสริมทางสังคมจากผู้ใหญ่
  • ความสนใจของผู้เรียนที่มีต่อเด็กนั้นสำคัญมาก
  • มีแนวโน้วจะเพิ่มพฤติกรรมที่ดีของเด็ก และมักเป็นผลในทันที
  • หากผู้ใหญ่สนใจพฤติกรรมที่ดีนั้นๆ ก็จะลดลงและหายไป
วิธีการแสดงออกถึงแรงเสริมจากผู้ใหญ่
  • ตอบสนองด้วยวาจา
  • การยืนหรือนั่งใกล้เด็ก
  • พยักหน้ารับ ยิ้ม ฟัง
  • สัมผัสทางกาย
  • ให้ความร่วมมือ , ร่วมกิจกรรมกับเด็ก
หลักการให้แรงเสริมในเด็กปฐมวัย
  • ครูต้องให้แรงเสริมทันทีที่เด็กมีพฤติกรรมอันพึงประสงค์
  • ครูต้องละเว้นความสนใจทันทีและทุกครั้งที่เด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
การแนะนำหรือบอกบท ( prompting )
  • ย่อยงาน
  • ลำดับความยากง่ายของงาน
  • การลำดับงานเป็นการเสริมแรงเพื่อให้เด็กค่อยๆก้าวไปสู่ความสำเร็จ
  • การบอกบทจะค่อยๆน้อยลงตามลำดับ
ขั้นตอนการให้แรงเสริม
  • สังเกตและกำหนดจุดมุ่งหมาย
  • วิเคราะห์งาน กำหนดจุดประสงค์ย่อยๆในงานแต่ละชั้น
  • สอนจากง่ายไปยาก
  • ให้แรงเสริมทันทีเมื่อเด็กทำได้หรือเมื่อเด็กพยายามอย่างเหมาะสม
  • ลดการบอกบท เมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะก้าวำไปขั้นต่อไป
  • ให้แรงเสริมเฉพาะพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่สุด
  • ทีละขั้น ไม่เร่งรัด " ยิ่งขั้นเล็กเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น "
  • ไม่ดุหรือตี
การกำหนดเวลา
  • จำนวนและความถี่ของแรงเสริมที่ให้กับพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กต้องมีความเหมาะสม
ความต่อเนื่อง
  • พฤติกรรมทุกๆอย่างในชีวิตปรำจำวันต่อเนื่องกันระหว่างพฤติกรรมย่อยๆหลายๆอย่างรวมกัน
  • เช่น การเข้าห้องน้ำ การนอนพักผ่อน การหยิบและเก็บของ การกลับบ้าน
  • สอนแบบก้าวไปข้างหน้าหรือย้อนมาจากข้างหลัง
เด็กตักซุป
  • การจับช้อน
  • การตัก
  • การระวังไม่ให้น้ำในช้อนหกก่อนจะเข้าปาก
  • การเอาช้อนและซุปเข้าปากแทนที่จะทำให้หกรดคาง
  • การเอาซุปออกจากช้อนเข้าสู่ปาก
การลดหรือหยุดแรงเสริม
  • ครูจะงดแรงเสริมกับเด็กที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
  • ทำอย่างอื่นและไม่สนใจเด็ก
  • เอาอุปกรณ์หรือของเล่นออกจากเด็ก
  • เอาเด็กออกจากการเล่น
ความคงเส้นคงวา
  • ต้นเทอมเป็นอย่างไรท้ายเทอมเป็นอย่างนั้น
          
          ท้ายชั่วโมง อาจารย์ให้นักศึกร่วมกันตอบคำถาม มีหัวข้อดังนี้
  • การสอนโดยบังเอิญหมายความว่าอย่างไร
  • การสอนโดยบังเอิญครูต้องพึงปฏิบัติอย่างไร
  • ตารางประจำวันของเด็กควรเป็นอย่างไร
  • การให้แรงเสริมต่อเด็ก มีวิธีการอย่างไรบ้าง

การนำไปประยุกต์ใช้

        สามารถนำความรู้ที่เรียนในวันนี้ไปปรับใช้ในการเรียนการสอนได้ เริ่มจากการมองเด็กให้เป็นเด็กก่อนไม่มองว่าเด็กพิเศษแปลกแยกจากเพื่อนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และมีการสังเกตการบันทึกพฤติกรรมของเด็กเป็นช่วงๆอย่างเป็นระบบ บันทึกตามความเป็นจริง ครูต้องมีปฏิสัมพันธ์ที่กับเด็กสร้างความไว้วางใจกับเด็กเพราะถ้าเด็กไว้วางใจเด็กก็จะมีความพร้อมที่จะเรียนรู้
  • ตนเอง   เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย  จดบันทึกเนื้อหาเพิ่มเติม ให้ความร่วมมือในการร้องเพลงและตอบคำถาม
  • เพื่อน   เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย เพื่อนๆ ทุกคนตั้งใจทำกิจกรรมวาดรูปมือของตนเอง  และให้ความร่วมมือในการร้องเพลงเป็นอย่างดีได้รับคำชมจากอาจารย์ว่าเป็นกลุ่มที่ร้องเพลงเพราะ
  • อาจารย์  : เข้าสอนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีกิจกรรมให้นักศึกษาทำเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบกับเนื้อหาที่สอนทำให้เข้าใจมากขึ้น อาจารย์สอนเนื้อหาได้ชัดเจนและเพิ่มเติมในส่วนที่นอกเหนือจากเนื้อหา



วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่ 4
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
วัน/เดือน/ปี 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558
ครั้งที่ 4 กลุ่มเรียน 104 วันจันทร์  
เวลาเข้าเรียน 12.20 - 15.50 น. ห้อง 435 อาคาร 4

                วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากอาจารย์ติดสัมมนาทางวิชาการผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา  " วิกฤติหรือโอกาส... การศึกษาปฐมวัยไทยในเวทีอาเซียน "